ชายหาดชะอำ เช่นเดียวกับหัวหิน เป็นที่ตั้งของโรงแรม และ สถานตากอากาศ สำหรับ สังคมชั้นสูง ในอดีต ในปัจจุบัน แม้หาด ชะอำ จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับบุคคลทั่วไป แต่ ชะอำ ก็ยังหลงเหลือสิ่งก่อสร้าง และโรงแรม ต่าง ๆ ในอดีตให้ได้เห็นกันอยู่ และในทุกวันนี้นอกจากนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้ว หาดชะอำ ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ และอาจจะได้เห็น ชะอำ กลับมามีสีสันมากขึ้นเช่นในอดีตอีกครั้ง

หาดชะอำ เป็นชายหาดที่สวยงาม และมีชื่อเสียง ถนนที่เลียบชายหาดยาวเหยียด และเรียงรายไปด้วยแนวต้นสน นักท่องเที่ยวจะสนุกสนานไปกับการเล่นน้ำทะเลใส ซื้อของกินในราคาไม่แพง ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้ามาหาบขายตลอดเวลา มีเตียงผ้าใบให้นั่งเล่น นอนเล่นยาวตลอดแนวชายหาดหาด หาดชะอำเต็มไปด้วยที่พักมากมายหลายระดับให้นักท่องเที่ยวได้เลือกใช้ บริการตาม ความสะดวก ทั้งแบบราคาย่อมเยาว์ไปจนถึงที่พักหรูราคาแพง ถนนเลียบชายหาดนั้นสามารถเช่าจักรยานขี่ชมวิวไปตามชายหาดได้อย่าง เพลิดเพลิน หรือจะขี่ม้าที่มีคนนำมาไว้บริการก็ได้

ทะเลอ่าวไทยซึ่งเิริ่มต้นที่เพชรบุรี ได้รับความนิยมจากคนไทยมาเป็นเวลานาน เิริ่มตั้งแต่ หาดเจ้าสำราญ หาดปึกเตียน และหาดชะอำ นอกจากนี้ยังมีวังให้เที่ยวชมสถาปัตยกรรมอันงดงามอีกหลายแห่ง

หาดชะอำ ห่างจากกรุงเทพ 176 กิโลเมตร โดยสามารถเริ่มต้นเที่ยวที่ หาดเจ้าสำราญ ก่อนได้ นับเป็นชายหาดที่มีบรรยากาศเงียบสงบ มีแนวชายหาดทอดยาวประมาณ 4 กิโลเมตร เชื่อมต่อมาจากหาดแหลมหลวง แต่ หาดเจ้าสำราญ เหมาะสำหรับเล่นน้ำมากกว่า

จากนั้นขับรถเลียบชายหาดลงใต้ต่อ ก็จะมาถึง หาดปึกเตียน โดยห่างจาก หาดเจ้าสำราญ ประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นหาดทรายสีน้ำตาลอ่อนทอดยาวประมาณ 4 กิโลเมตร มีจุดเด่นที่รูปปั้นตัวละครเด่นจากเรื่องพระอภัยมณีตั้งกระจายอยู่ตามแนวชายหาด แต่ที่เด่นที่สุดอยู่กลางทะเลคือรูปปั้นของนางผีเสื้อสมุทร ขับรถมาหากเห็นรูปปั้นนางยักษ์ เป็นอันรู้ว่าถึง หาดปึกเตียน แล้ว

ตลอดถนนเลียบหาดนอกจากจะมีร้านค้า ร้านอาหาร รีสอร์ตที่พัก มากมายแล้ว บริเวณริมหาดยังมีกิจกรรมขี่ม้า และเครื่องเล่นทางน้ำให้เล่นอีกหลายอย่าง

จาก หาดปึกเตียน ขับรถต่อมา ก็จะถึง หาดชะอำ

เลยจาำก หาดชะอำ สามารถขับรถไปชม พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณค่ายพระรามหก เป็นพระตำหนักที่ประทับริมทะเล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2466 แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2467 และได้รับขนานนามว่า พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง เป็นพระตำหนักไม้สักสองชั้น หันหน้าออกสู่ทะเล

Promotion โรงแรมใน ชะอำ

Advertising Zone    Close