มีคำกล่าวว่าหากอยากไปเที่ยวเหนือ แต่ไม่มีเวลา ให้ลองไปเที่ยว สวนผึ้ง แทนดู แล้วคุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของ สวนผึ้ง ที่สวยคล้ายกับภาคเหนือ และมีกิจกรรมเด่นที่สวนผึ้ง ก็ยังเป็นการขึ้นเขากระโจม เที่ยวชมทะเลหมอกสวย ๆ ติดชายแดนไทยพม่า แม้เส้นทางจะลำบาก ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่ก็คุ้มค่าแก่การเหมารถนำเที่ยวใน สวนผึ้ง ขึ้นไปเที่ยวชม และหากไปเยือนสวนผึ้ง ในช่วงฤดูหนาว สวนผึ้งยังมีธารน้ำร้อนบ่อคลึงให้แช่น้ำแต่อุ่น ๆ คลายหนาวด้วย การเที่ยวสวนผึ้ง มีเวลาเพียง 2 วัน ก็เพียงพอแล้ว

อำเภอสวนผึ้ง ห่างจากกรุงเทพ ประมาณ 160 กิโลเมตร เส้นทางสะดวกสบาย ใช้เวลาไม่นาน เส้นทางขับรถไปท่องธรรมชาติของ สวนผึ้ง ได้แก่

-น้ำตกเก้าชั้น เป็นน้ำตกสูงในสวนผึ้งที่ไหลจากยอดเขาลงมาเป็นชั้น ๆ หรือเป็นลักษณะกระโจนลงมา ตลอดแนวน้ำตกมีเส้นทางเดินเลียบให้อย่างดีจนถึงชั้นที่ 6 จากนั้นชั้นที่ 7-9 จะเป็นเส้นทางเลาะเลียบเขา ซึ่งไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะไม่มีเส้นบอกทางชัดเจน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงเที่ยวชมถึงแค่ชั้น 6 เท่านั้น

-ธารน้ำร้อนบ่อคลึง ภายในเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้แช่บ่อน้ำแร่ร้อนที่มีคุณประโยชน์มากมายจากธรรมชาติ โดยมีให้เลือกทั้งบ่อน้ำแร่กลางแจ้ง และบ่อน้ำแร่ภายในอาคารอันร่มรื่น ซึ่งหากใครอยากพักผ่อนท่ามกลางบ่อน้ำแร่แบบนี้ ด้านหน้าทางเข้ามี รีสอร์ท ให้บริการ และมีน้ำแร่ส่งตรงถึงห้องพักเลยทีเดียว

-เขากระโจม ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะเป็นเส้นทางขึ้นเขาสูงชัน ขรุขระ และมีแอ่งกว้างให้ลุยฝ่า สามารถติดต่อรถนำเที่ยวเขากระโจมได้ทุกรีสอร์ตใน สวนผึ้ง และเมื่อเดินทางถึงยอดเขากระโจม จะพบลานกว้างที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และจุดทะเลหมอกติดชายแดนไทยพม่าที่มีความงดงามที่สุดของ สวนผึ้ง เลยที่เดียว และหลังจากชมทะเลหมอกแล้ว ขากลับระหว่างทางยังมี น้ำตกผาแดง ให้เดินเข้าไปเที่ยวชม อยู่ไม่ไกลจากทางขึ้นเขากระโจมมากนัก ประมาณ 2 กิโลเมตร แม้จะไม่มีแอ่งน้ำให้ลงเล่น แต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม ยามแดดช่วงเช้าส่องน้ำตก จะพบว่าบริเวณโดยรอบเป็นหน้าผาสีแดงตามชื่อจริง ๆ

จองโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท ในสวนผึ้ง ราชบุรี

Advertising Zone    Close